5 รูปแบบการเรียน ที่นักเรียนไทยต้องปรับตัวเมื่อไปเรียนต่างประเทศ

อย่างที่เราทราบกันดี ว่าโรงเรียนในประเทศไทยส่วนใหญ่จะเรียนตั้งแต่เช้ายันเย็น มีเวลาพักบ้าง แต่ก็หมดไปกับการทำชิ้นหรือทำการบ้านต่างๆ ซึ่งโรงเรียนในบางประเทศก็เรียนหลายชั่วโมงแต่อาจจะไม่ทั้งวัน ที่สำคัญก็ไม่ได้นั่งเรียนแบบฟังอาจารย์ผู้สอนซะอย่างเดียว วันนี้เราจึงนำ 5 รูปแบบการเรียนของต่างประเทศมาให้น้องๆทราบกันค่ะ

1. เวลาในการเรียน

ส่วนใหญ่ในชั้นเรียนอาจารย์ผู้สอนมักจะบอกนักเรียนเสมอเวลาครั้งหน้าจะเรียนเรื่องอะไร ให้นักเรียนไปศึกษามาคร่าวๆเพื่อที่จะนำมาแลกเปลี่ยนความรู้ความเข้าใจที่ได้ และฟังข้อมูลที่ถูกต้องของครูผู้สอนอีกครั้ง น้องๆต้องหัดจดข้อมูลสำคัญให้ไวนะคะ คุณครูมักจะไม่รอ ดังนั้นจดแต่สิ่งที่สำคัญที่สุดแล้วค่อยทำสรุปอีกทีค่ะ

2. การอ่าน

อย่างที่กล่าวไปเบื้องต้นว่าน้องๆต้องเตรียมทำความเข้าใจเนื้อหาก่อนที่จะเรียนในครั้งต่อไป ดังนั้นทักษะการอ่านจึงสำคัญมาก อ่านอย่างไรให้เข้าใจความหมายได้ใจความ เพื่อทำสรุปของตนเอง อีกทั้งการอ่านจะช่วยให้น้องๆมองเห็นรูปแบบโครงสร้างประโยคและสำนวนการเขียนต่างๆด้วยค่ะ

3. การเขียนเรียงความ

การเขียนเป็นอีกหนึ่งทักษะที่สำคัญมากของการเรียนต่างประเทศ คุณครูส่วนใหญ่ชอบให้นักเรียนเขียนเรียงความสรุปเรื่องที่เรียนต่างๆมาส่ง แต่น้องๆคนไหนที่ทักษะการเขียนไม่แข็งแรงไม่ต้องกลัวนะคะ เขามีอาจารย์คอยให้คำปรึกษาตลอดเวลา หากไม่เข้าใจตรงไหนสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้เลยค่ะ

4. การสัมมนา

แน่นอนว่าต่างประเทศชอบให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการเรียนการสอนต่างๆ ดังนั้นการเข้าสัมมนาจึงสำคัญมาก เพื่อให้น้องๆได้ฝึกทักษะการพูด การทำความเข้าใจ และการแสดงออกความคิดเห็นกับครูผู้สอนหรือวิทยากรที่มาให้ความรู้

5. การวิจัย

ส่วนใหญ่จะเป็นน้องๆนักศึกษามหาวิทยาลัยที่จะเจอการทำวิจัย ซึ่งน้องๆจะได้เรียนขั้นตอนของการทำวิจัย การเลือกหัวข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนการอ้างอิงต่างๆ ซึ่งการทำวิจัยหรือบางที่เรียกว่าวิทยานิพนธ์สำคัญตอนน้องๆจะจบการศึกษา อย่างน้อยต้องทำ 1 เล่ม ถึงจะผ่านหลักสูตร