5 เมืองน่าไปเรียนใน England

5 เมืองน่าไปเรียนใน ENGLAND

           หากพูดถึงประเทศที่ผู้คนนิยมไปเรียนกันมากที่สุดอันดับต้นๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นประเทศอังกฤษ หรือที่เราเรียกกันอีกชื่อว่า “เมืองผู้ดี” อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าประเทศอังกฤษเป็นศูนย์กลางแห่งความเจริญในหลายๆด้านตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน  การวางรากฐานการศึกษาให้คนในประเทศมีศักยภาพจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ทำให้ประเทศอังกฤษมีระบบการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก ดังนั้นประเทศนี้จึงเป็นจุดหมายของใครหลายคนที่กำลังมองหาสถานที่ศึกษาต่อ วันนี้ ทาง Classy English ก็ขอแนะนำ 5 เมืองสุดเริ่ดที่คิดจะเรียนต่อที่อังกฤษ อย่าลืมลิส 5 เมืองนี้ไว้เลย

1. เมือง Oxford (อ๊อกซฟอร์ด)

         เปิดตัวอันดับแรกด้วยเมืองที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองแห่งการศึกษาอย่าง Oxford เนื่องจากเป็นบ้านของมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ ได้แก่ university of oxford แค่ชื่อนี้ก็สามารถการันตีความแข็งแกร่งในระบบการศึกษาของเมืองได้แล้ว แต่ยังไม่พอค่ะ เราได้รวบรวมข้อดีบางส่วนของเมืองนี้ประกอบการพิจารณาด้วย  

- เป็นเมืองที่ผสมผสานความคลาสสิคและความทันสมัยได้อย่างลงตัว

- มีโรงเรียน วิทยาลัย มหาวิทยาลัย จำนวนมาก   

- หากอยากแสดงทักษะการปั่นจักรยานสุดพลิ้วไหวของคุณ แนะนำเมืองนี้เลยค่ะปั่นกันตั้งแต่เด็กเล็กจนคุณปู่ไวเกษียณอายุ 


 

2. เมือง London (ลอนดอน)

          สำหรับเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศอย่าง ลอนดอน จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย อย่างที่ทราบกันดีเมืองนี้เขาเป็นผู้นำทางด้านต่างๆ  อีกทั้งสถานศึกษาแหล่งแห่งก็มีความทันสมัย หลายคนคิดว่าค่าครองชีพต้องแพงมากๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ไม่ได้แพงอย่างที่คิด หากเงินจำนวนนั้นแหลกกับประสบการณ์และมุมมองใหม่ๆที่คุณจะได้รับจากเมืองนี้ ดิฉันว่ามันคุ้มค่ะ สำหรับข้อดีเขาก็มีเยอะแยะ แต่ที่เด่นมากๆ คือ

          - การคมนาคมขนส่งที่ดีเยี่ยม สะดวก รวดเร็ว ตรงต่อเวลา

          - จะได้เจอสำเนียงภาษาอังกฤษหลายสำเนียงมาก หากคุณอยู่ลอนดอนได้ รับรองไปที่ไหน สำเนียงยังไงคุณก็ฟังออกชัวร์ รับรองว่าคุณจะต้องตกหลุมรักกลิ่นอายลอนดอนเนอร์แน่นอน

          - เป็นสถานที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆของประเทศอังกฤษ เรียกได้ว่าแทบจะไม่พลาดทุกอีเว้นท์ของประเทศเลยทีเดียว


 

3. เมือง Cambridge (เคมบริดจ์)

           มาถึงเมืองที่มีทัศนียภาพที่สวยงามไม่แพ้เมืองอื่นของประเทศอย่าง เมืองเคมบริดจ์ อ๊ะๆ! เคยสังเกตข้างปกหนังสือภาษาอังกฤษที่เราเรียนกันมาบ้างรึเปล่าคะ คุณอาจจะเห็นชื่อของเคมบริดจ์ นั่นแหละค่ะ เมืองนี้เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่าง university of Cambridge ถ้าให้กล่าวถึงความเป็นเลิศด้านวิชาการของเขาและก็ คงต้องจับเข่าคุยกันนานเลยค่ะ ดังนั้นไม่แปลกใจที่ใครหลายคนให้ความสนใจอยากจะไปศึกษาต่อที่เมืองนี้ แต่เมืองเขาก็ไม่ได้มีดีแค่ มหาวิทยาลัยนะคะ ข้อดีอื่นๆยังมีอีกเพียบ อาทิ

            - ทัศนียภาพสวยงาม

            - ค่าครองชีพค่อนข้างถูก แต่อย่าเทียบกับประเทศไทยนะคะ

            - ผู้คนหลากหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ คุณอาจจะได้พบมิตรภาพดีๆจากเมืองนี้ก็ได้


 

4. เมือง Manchester (แมนเชสเตอร์)

           แฟนลูกหนังฟังทางนี้เลยจ้า เมืองแมนเชสเตอร์เขาขึ้นชื่อเรื่องทีมฟุตบอล หลายคนตัดสินใจไปศึกษาต่อเมืองนี้ก็เพราะอยากจะศึกษาหาความรู้ไปด้วย แถมวันหยุดได้ไปดูบอลแบบชิดติดขอบสนามด้วย แต่เมืองนี้เขาก็ไม่ได้มีดีแค่เรื่องฟุตบอลนะจ๊ะ แมนเชสเตอร์เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศเลยทีเดียว ความเจริญไม่ต้องพูดถึง มีทุกสิ่งอยากที่เราต้องการ ข้อดีของเมืองนี้ ได้แก่

           - การคมนาคมขนส่งเป็นเลิศ

           - มีแหล่งกิจกรรมสันทนาการมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แหล่งช้อปปิ้ง กีฬา ร้านอาหาร สถานศึกษาเมืองนี้เป็นทุกอย่างให้คุณแล้ว

           - ผู้คนเป็นมิตร เฮฮา แถมสำเนียงแมนเชสเตอร์ยังมีเสน่ห์มากอีกด้วย


 

5. เมือง Leeds (เมืองลีดซ์)

            หลายคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นกับชื่อนี้เท่าไหร่ แต่คุณคะ เมืองนี้เป็นอันดับต้นๆที่คนนิยมไปเรียนต่อค่ะ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีระบบการศึกษาไม่เป็น 2 รองใคร และหากพูดถึงความชิลหลังเลิกเรียน แนะนำเมืองนี้เลยค่ะ ขึ้นชื่อเรื่องแสงสีไม่ใช่น้อย หากคุณเป็นคนชอบเรียนให้สุด เล่นให้สนุก ยินดีต้อนรับสู่เมืองลีดซ์ค่า ข้อดีก็มีให้เห็นนะ

            - ระบบการศึกษาดีเยี่ยม

            - เมืองเล็ก น่ารัก ผู้คนเป็นมิตร

            - อากาศค่อนข้างดี


 

            จากข้อมูลที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งมวลอาจเป็นเพียงบางส่วนที่นำมาเสนอให้ผู้อ่านประกอบการตัดสินใจ นอกจากเมืองที่เรานำมาแนะนำเบื้องต้น เมืองผู้ดีเขายังมีอีกหลายเมืองที่น่าสนใจ การเลือกเมืองที่ใช่สถานศึกษาที่ชอบขึ้นอยู่กับความคิดส่วนบุคคลล้วนๆ ลองสำรวจความเป็นตัวคุณดูนะคะ และคุณจะพบว่าคุณเหมาะกับเมืองไหน

 

 

บทความน่าสนใจอื่นๆ

Visitors: 1,183,469