เทคนิคการพูดภาษาอังกฤษให้ชัดเจนและถูกต้อง

เทคนิคการพูดภาษาอังกฤษให้ชัดเจนและถูกต้อง

Techniques for clear and accurate speaking

    การพูด จัดเป็นการสื่อสารที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะเป็นการสื่อสารที่รวดเร็วและชัดเจน ยังเป็นวิธีการสื่อสารที่ทำให้ผู้รับสารเข้าใจถึงประเด็นที่จะสื่อสาร และมีความผิดพลาดน้อยที่สุด ดังนั้นการฝึกทักษะการพูดจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน เนื่องจากทุกคนนั้น ล้วนมีสิ่งที่ตนเองต้องการจะสื่อสาร  
 
    การฝึกทักษะการพูดนั้น อาจไม่ใช่เรื่องยากเย็นสักเท่าไร หากเป็นภาษาแม่ หรือ ภาษาที่ใช้พูดมาตั้งแต่กำเนิด ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน ก็จะฝึกฝนให้เกิดความชำนาญได้จากการใช้งานจริง แต่จะเป็นอย่างไร หากเราอยู่ในสภานการณ์ที่ไม่สามารถใช้ภาษาไทยของเราสื่อสารกับผู้อื่นได้ หากอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มีใครสามารถสื่อสารภาษาไทยที่เราใช้ได้ ภาษาอังกฤษ คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด 

    ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้สื่อสารกันอย่างกว้างขวาง กล่าวได้ว่า หากคุณสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ ก็สามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้ทั่วโลกนั่นเอง แต่การเรียนภาษาอังกฤษของเรานั้น แม้ว่าจะเรียนมาตั้งแต่วัยเยาว์ หากไม่ได้ใช้ ไม่ได้ฝึกฝนเพิ่มเติม ก็ไม่อาจพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เรามี 6 เทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้ทักษะการพูดภาษาอังกฤษของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  
1. พูดให้ช้าและชัดเจน
   สำหรับการฝึกพูดภาษาอังกฤษนั้น การพูดเร็วไม่ได้หมายความว่าดีเสมอไป หากจะพูดให้รวดเร็วเหมือนกับเจ้าของภาษานั้นคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับช่วงแรก การพูดเร็วอาจทำให้เกิดความผิดพลาดในสิ่งที่จะสื่อได้ ดังนั้นการเริ่มจากฝึกพูดช้าๆ และชัดเจนในทุกๆคำ จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ถึงการพูดอาจจะไม่รวดเร็วเท่าไรแต่ประเด็นที่สื่อออกไปมีความถูกต้อง เข้าใจตรงกันแน่นอน 
 
2. ฝึกการออกเสียงรายเสียง
   การฝึกออกเสียงในภาษาอังกฤษในแต่ละคำ มีความสำคัญมาก เนื่องจากหลายๆ เสียงที่ใช้ในการพูดภาษาอังกฤษนั้น บางเสียง ไม่มีในภาษาไทย ยกตัวอย่างเช่น เสียง “th” หรือ “z” ที่ไม่ตรงกับเสียงพยัญชนะใดในภาษาไทยเลย นั่นหมายความว่าหากไม่ฝึกออกเสียงบ่อยๆ เราจะไม่เกิดความคุ้นเคยนั่นเอง บางคำในภาษาอังกฤษมีการออกเสียงคล้ายกัน เช่น “tea”, “tree” และ “three” หากไม่ฝึกออกเสียงไว้ จะทำให้เกิดความเข้าใจผิดในการสื่อสารได้  

3. ใช้การวรรคตอนให้ถูกต้อง
   อย่างที่ทราบกันดีว่าการวรรคตอนนั้น มีความสำคัญมากในการสื่อสารทั้งการพูดและการเขียน ในการฝึกพูดภาษาอังกฤษนั้น ควรฝึกใช้การวรรคตอนให้ถูกต้องเหมาะสม เพื่อความต่อเนื่องของการสื่อสาร การวรรคตอนที่ถูกต้อง นอกจากจะทำให้เนื้อหาที่เราสื่อชัดเจน ยังทำให้การพูดของเรามีความน่าฟังและไม่น่าเบื่ออีกด้วย

4. เน้นย้ำคำสำคัญ
   การพูดแต่ละประโยค มีจุดมุ่งหมายในการพูดที่แต่แตกต่างกันออกไป และแม้จะเป็นในประโยคเดียวกัน หากมีการเน้นย้ำคำสำคัญที่แตกต่างกัน ก็ทำให้ความหมายของประโยคเปลี่ยนไป ทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เช่น 
   - I don’t want to wear RED shirt.
   - I don’t want to wear red SHIRT.
   จะเห็นว่าสองประโยคจากตัวอย่างนี้ เขียนเหมือนกันแบบไม่มีผิดเพี้ยน แต่การเน้นย้ำคำขณะพูดต่างกัน โดยในประโยคแรก จะมีความหมายว่า ไม่อยากสวมเสื้อเชิ้ตที่มีสีแดง ในขณะที่ประโยคที่สองจะหมายความว่า ไม่อยากสวมเสื้อเชิ้ตเลย
   ดังนั้นการเน้นย้ำคำสำคัญที่เราต้องการจะสื่อ ทำให้เกิดความเข้าใจที่ตรงกันมากขึ้นของตัวเราและผู้รับสาร
 
5. ใช้น้ำเสียงให้เหมาะสม
   สิ่งที่ทำให้การพูดต่างจากการเขียนก็คือ การพูด ทำให้ผู้ฟังรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้พูดได้มากกว่า การใช้น้ำเสียงที่แตกต่างกันในแต่ละประโยค นอกจากจะทำให้ผู้ฟังเข้าใจประเด็น ยังทำให้เข้าใจถึงความรู้สึกของเราอีกด้วย เช่น หากเราต้องการจะขอร้องบางสิ่ง แม้เราจะใช้คำได้ไม่ถูกต้องเท่าไร แต่หากน้ำเสียงบ่งบอกถึงการขอร้องอ้อนวอน ก็จะช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจได้

5. ใช้ภาษากาย
   การใช้ภาษากายหรือแสดงท่าทางประกอบการพูดนั้น เป็นเรื่องเบื้องต้นที่สุดที่เราจะทำ หากผู้ฟังไม่สามารถเข้าใจในสิ่งที่เราพูดได้ ยิ่งเราฝึกการใช้ภาษากายให้เหมาะสมกับการพูดมากเท่าไร การพูดของเราก็จะมีความผิดพลาดในการสื่อสารน้อยลงเท่านั้น


   เทคนิคที่กล่าวมานั้นเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำให้การพูดภาษาอังกฤษของคุณนั้นมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม หากคุณคิดว่าการพูดภาษาอังกฤษให้ถูกต้องสมบูรณ์แบบนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด อาจยังไม่ถูกต้องสักเท่าไร แม้แต่เจ้าของภาษาเองก็ยังมีการผิดพลาดในการพูดเป็นเรื่องปกติ แต่สิ่งสำคัญคือ ผู้ที่เราสื่อสารหรือพูดด้วย สามารถเข้าใจสิ่งที่เราสื่อได้ และทำให้การสนทนาเป็นไปด้วยความราบรื่น เพียงเท่านี้ การพูดภาษาอังกฤษของคุณก็ประสบความสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว หมั่นฝึกฝนต่อไป ในอนาคตอันใกล้จะประสบความสำเร็จมากกว่านี้อย่างแน่นอน

#ยืนหนึ่งเรื่องกิจกรรมอังกฤษแบบอินเตอร์
#ClassyEnglish 
 
Visitors: 1,206,092